′ทอนซิลอักเสบ′ ปล่อยไว้เกิดภาวะแทรกซ้อน เรื่องใหญ่อีก

14418706101441870622l

คอลัมน์ พบแพทย์จุฬา
ฝ่ายกุมารเวชศาสตร์ รพ.จุฬาลงกรณ์
ต่อมทอนซิล เป็นต่อมน้ำเหลืองที่อยู่บริเวณสองข้างด้านหลังคอหอย มีหน้าที่ช่วยร่างกายต่อสู้เชื้อโรค แต่หากต่อมทอนซิลอักเสบ แสดงว่ามีการติดเชื้อ ซึ่งพบบ่อยในเด็ก

โรคนี้มีสาเหตุจากการติดเชื้อไวรัสหรือการติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น สเตรปโตคอคคัส ซึ่งทำให้ทอนซิลอักเสบจนเป็นหนอง เชื้อเหล่านี้จะอยู่ในน้ำลายและเสมหะของผู้ป่วย ติดเชื้อได้ง่ายจากการที่ผู้ป่วยไอจามรดกัน ผู้ป่วยทอนซิลอักเสบจะมีอาการเจ็บคอ มีไข้ และกลืนลำบาก เมื่ออ้าปากดูภายในคอ จะเห็นบริเวณผนังคอหอยและต่อมทอนซิลบวมแดง บางครั้งอาจเห็นแผ่นหรือจุดหนองสีเหลืองบริเวณคอหอยและต่อมทอนซิล นอกจากนี้ ยังอาจพบต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอและขากรรไกรบวมโตและเจ็บ

ภาวะแทรกซ้อนที่พบ คือ 1.หูชั้นกลางอักเสบ โรคไซนัสอักเสบ หรือโรคฝีที่ทอนซิล เกิดจากการที่เชื้อลุกลามจากคอหอยและทอนซิลไปยังบริเวณใกล้เคียง 2.ไข้รูห์มาติก เกิดการอักเสบของข้อและหัวใจ ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคลิ้นหัวใจรั่ว 3.ไตอักเสบ ผู้ป่วยมีไข้ บวม ปัสสาวะเป็นเลือด และอาจมีภาวะไตวายได้

การดูแลรักษา เมื่อมีไข้และเจ็บคอ หากมีน้ำมูกใส เสียงแหบ หรือไอร่วมด้วย มักเกิดจากเชื้อไวรัส ควรรักษาตามอาการโดยให้กินยาลดไข้พาราเซตามอล และเช็ดตัวลดไข้ ถ้าอาการไม่ดีขึ้น ยังมีอาการเจ็บคอ กินอาหารและดื่มน้ำได้น้อย ควรปรึกษาแพทย์ ผู้ป่วยที่มีอาการไข้สูง เจ็บคอมาก คอและทอนซิลบวมแดง นอกจากให้ยาตามอาการแล้ว ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง กรณีแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคทอนซิลอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาซึ่งอาการของโรคมักทุเลาลงภายใน 2-3 วัน ผู้ป่วยจำเป็นต้องกินยาให้ครบตามที่แพทย์กำหนดเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน

การป้องกันโรคทอนซิลอักเสบทำได้เช่นเดียวกับการป้องกันโรคไข้หวัดธรรมดาโดยหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วยที่มีไข้และเจ็บคอไอจามรดและไม่ใช้ของใช้ร่วมกับผู้ป่วย สำหรับผู้ป่วยทอนซิลอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย ต้องกินยาให้ครบตามที่แพทย์สั่ง

เนื้อหาโดย : นสพ.มติชน

About admin

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *