ผู้นำซูดานได้จวกรัฐบาลสหรัฐว่า “กำลังทำลายล้าง” (devastating) โลกอาหรับ

หวานคอหมี: ผู้นำซูดานต้องการช็อปปิ้งบินรบ Su-30, Su-35 และระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-300 จากรัสเซีย และขอให้รัสเซียเข้าไปตั้งฐานทัพในซูดานด้วย สกัดสหรัฐฉีกประเทศออกเป็น 5 ส่วน (ตอนที่ 2: สัมภาษณ์พิเศษผู้นำซูดานเปิดใจขอความคุ้มครองจากรัสเซีย ก่อนจะสายเกินไป และไม่ต้องการให้ซูดานกลายเป็นซีเรีย2)
————-

คราวนี้มาอ่านบทสัมภาษณ์พิเศษของประธานาธิบดีโอมาร์ บาชีร์ แห่งซีดาน ซึ่งได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อรัสเซียบ้างนะครับ วันที่ 25 พ.ย.60 Sputnik พาดหัวข่าวว่า “สัมภาษณ์พิเศษ: ประธานาธิบดีซูดานกล่าวหาสหรัฐว่ากำลังพยายามแบ่งประเทศซูดานออกเป็น 5 รัฐ” (EXCLUSIVE: Sudan President Accuses US of Seeking to Split Country Into 5 States)

ประธานาธิบดีโอมาร์ บาชีร์ (Omar Bashir) ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับสำนักข่าว Sputnik ของรัสเซีย และได้พูดถึงความเป็นไปได้เกี่ยวกับความร่วมมือทางทหารกับรัสเซีย รวมทั้งสถานการณ์ในภูมิภาคดาฟัวร์ซึ่งเป็นจุดเดือดของประเทศด้วย ผู้นำซูดานได้จวกรัฐบาลสหรัฐว่า “กำลังทำลายล้าง” (devastating) โลกอาหรับ

“เรามีข้อมูลว่าสหรัฐกำลังทะเยอทะยานที่จะแบ่งแยกซูดานให้เป็นห้าประเทศ (หนึ่งในนั้นรวมทั้ง “สปป.ดาร์ฟัวร์” ด้วย?) ซูดานกำลังเผชิญหน้ากับการกดดันครั้งใหญ่และการสมคบคิดจากสหรัฐ” ประธานาธิบดีโอมาร์ บาชีร์กล่าว

กรุงวอชิงตัน “ได้ทำลายล้างโลกอาหรับ” ไปแล้ว ปธน. บาชีร์กล่าวอย่างเปิดเผย โดยชี้ให้เห็นถึงสถานการณ์ในอัฟกานิสถาน อิรัค ซีเรีย และเยเมน (และลิเบีย) เป็นตัวอย่าง

[แต่พวกอาหรับบางประเทศก็ยังไม่สำนึกและยังไม่รู้ตัว โดยเฉพาะแก๊งซาอุดิอาระเบียที่ยังมองว่า การดำเนินการแบบนั้นของตะวันตกนำโดยสหรัฐเป็นประโยชน์ต่อตัวเอง ด้วยการร่วมกับแก๊งนักล่าทำลายมิตรประเทศเพื่อนบ้านรอบข้างตัวเอง เมื่อประเทศอื่นๆเละหมดแล้ว คิดว่าสหรัฐจะหันปลายกระบอกปืนรถถังและเบนหัวเครื่องบินรบไปที่ใครหละ? – ผู้แปล]

ในการพบกันระหว่างประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย และประธานาธิบดีบาชีร์ ในสัปดาห์นี้ (สัปดาห์ที่แล้ว) (ที่ถูกฝ่ายตะวันตกยัดข้อหาจอมเผด็จการอาชญากรสงครามให้ โดยศาลอาญาระหว่างประเทศในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ เหมือนกับที่ซัดดัมแห่งอิรัค กัดดาฟี่แห่งลิเบียเคยโดนมาแล้ว และอัสซาดแห่งซีเรียกำลังโดนอยู่ในขณะนี้ แต่อัสซาดยังไม่ถึงศาลอาญาระหว่างประเทศเพราะได้รัสเซียและจีนช่วยเหลือเอาไว้ซะก่อน) ผู้นำซูดานกล่าวว่า ประเทศของท่านต้องการการปกป้องคุ้มครองจาก “การรุกรานจากสหรัฐ” และเน้นย้ำว่าการแยกประเทศซูดานใต้เกี่ยวข้องกับนโยบายของสหรัฐ

ซูดานใต้ประกาศเอกราชจากสาธารณรัฐซูดานในปี 2011 หลังจากการมีผู้ออกเสียงถึง 98.8 เปอร์เซ็นในทำประชามติแบ่งแยกประเทศ

+ การสร้างฐานทัพและการสนับสนุนด้านอาวุธโดยรัสเซีย
————

ในการเดินทางมาเยือนรัสเซียนั้น ผู้นำซูดานได้กล่าวว่า ตนเอง “ได้ทำการหารือ” เกี่ยวกับการก่อสร้างฐานทัพแห่งหนึ่งชายฝั่งทะเลแดงร่วมกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย และกับ พล.อ. เซอร์เก ซอยกู

เกี่ยวกับความร่วมมือทางด้านการป้องกันประเทศร่วมกับรัสเซีย ปธน.โอมาร์ บาชีร์ กล่าวว่า ซูตานมีความสนใจในการจัดซื้อเครื่องบินรบ Su-30 และ Su-35 รวมทั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-300 จากรัสเซียด้วย

“เราร้องขอ [เครื่องบินรบ] Su-30 ก็เพราะว่าเครื่องบินรบเหล่านั้นสามารถปกป้องน่านฟ้าของซูดานได้ รวมทั้ง Su-35 ด้วย เราไม่มีเจตนาที่จะรุกรานต่างชาติ เราต้องการที่จะปกป้องประเทศของเรา” ปธน. อัล-บาชีร์กล่าว RT รายงาน

ผู้นำซูดานเปิดเผยว่า ปัจจุบันนี้ซูดานยังใช้ระบบป้องกันภัยทางอากาศรุ่นเก่าซึ่งผลิตตั้งแต่สมัยสหภาพโซเวียต ซูดานมีความสนใจในการจัดหาเรือติดตั้งมิสไซล์ และเรือกวาดทุ่นระเบิดด้วย

[ว้าว! พี่แกจะเอาเรือรบติดตั้งขีปนาวุธของรัสเซียด้วยนิ เจ๋งเป้งเลย! ปัจจุบันนี้ ทร. ของซูดานอ่อนแอมาก แม้จะมีพื้นที่ติดกับทะเลแดงก็ตาม มีเพียงเรือตรวจการชายฝั่งขนาดเล็กไม่กี่ลำ น่าเป็นห่วงมาก – ผู้แปล]

“เราต้องการที่จะพัฒนาความร่วมมือทางทหารจากทูตทหารไปจนถึงเหล่าที่ปรึกษา เรามีโครงการสำหรับการยกเครื่องกองทัพทั้งหมดอย่างเต็มที่… อาวุธยุทโธปกรณ์ทั้งหมดของเราเป็นของค่ายรัสเซีย ดังนั้น เราจึงต้องการที่ปรึกษาในสาขาเหล่านี้” ผู้นำซูดานอธิบาย

[ข้อมูลจากวิกิพีเดียระบุว่า ปัจจุบัน ทอ. ซูดานมีเครื่องบินรบ MiG-29 จำนวน 35 ลำ, MiG-23 จำนวน 3 ลำ, MiG-21 จำนวน 4 ลำ, Su-24 จำนวน 12 ลำ (ซื้อต่อจากเบลารุส), Su-25 จำนวน 15 ลำ ทั้งหมดนี้เป็นเครื่องบินรบยุคโซเวียต และ Nanchang Q-5 (ของจีน) จำนวน 20 ลำ, Chengdu J-7 (MiG-21 เวอร์ชั่นจีน) จำนวน 24 ลำ, Shenyang J-5 (MiG-17 เวอร์ชั่นจีน) จำนวน 16 ลำ ส่วนเครื่องบินขนส่งลำเลียงและเฮลิคอปเตอร์ มีทั้งของค่ายโซเวียต ยูเครน และสหรัฐ ส่วนใหญ่เป็นของสมัยคุณปู่ ไม่รู้ว่าจะยังสามารถใช้งานได้จริงกี่ลำ

ส่วน ประธานาธิบดี โอมาร์ อัล-บาชีร์ นั้น ขึ้นเป็นผู้นำประเทศด้วยการยึดอำนาจในปี 1989 และก็ได้รับเลือกตั้งให้เป็นผู้นำประเทศซูดานติดต่อกันมาทุกสมัยจนถึงปัจจุบัน ปัจจุบันนี้อายุ 73 ปี (รุ่นราวคราวเดียวกับท่านปธน. ดูเตอร์เต้ แห่งฟิลิปปินส์) นี่แหละหนึ่งในเป้าใหญ่ของสหรัฐ นโยบายโค่นล้มอำนาจของผู้นำกลุ่มประเทศอาหรับที่ครองอำนาจมาอย่างยาวนาน หนึ่งในพันธมิตรที่สำคัญของซูดานในภูมิภาคนั้นก็คือ อียิปต์ และอียิปต์ก็เป็นพันธมิตรกับรัสเซียด้วย

สมัยก่อนพื้นที่บางส่วนของซูดานอยู่ในการปกครองของอาณาจักรอ็อตโตมันในช่วงระยะเวลาสั้นๆ (1820-21 ) ต่อมาถูกอังกฤษกับอียิตป์ยึดครอง (1899-1955) ประกาศอิสระภาพในปี 1956 สหรัฐคว่ำบาตรด้านอาวุธและเศรษฐกิจต่อซูดาน แต่ไม่ใช่ยูเอ็น ถ้าสหรัฐประสบความสำเร็จในการใช้อำนาจยูเอ็นคว่ำบาตรซูดานได้เมื่อไร ซูดานก็จะกลายเป็น อัฟกานิสถาน 2, อิรัค 2, ลิเบีย 2, เยเมน 2 และซีเรีย 2 ทันที นับว่าผู้นำซูดานคนนี้เริ่มท้นเกมอเมริกา โดยหันมาคบกับรัสเซียและสั่งซื้ออาวุธของรัสเซียก่อนที่จะถูกนานาชาติคว่ำบาตรเรื่องอาวุธ – ผู้แปล]

+ สถานการณ์ในภูมิภาคดาฟัวร์
————-

ปธน. โอมาร์ บาชีร์ ได้พูดถึงสถานการณ์ในภูมิภาคดาร์ฟัวร์ของซูดาน ที่มีการก่อกบฏ โดยกล่าวว่า ตอนนี้มีเสถียรภาพแล้ว พวกผู้ก่อความไม่สงบยอมวางอาวุธตามโครงการของรัฐ

“ขณะนี้เราสามารถกล่าวได้ว่าดาร์ฟัวร์มีสันติภาพแล้ว ไม่มีการลุกฮือก่อกบฏในดาร์ฟัวร์อีก เราดำเนินแคมเปญจ์ครั้งใหญ่เกี่ยวกับการเรียกคืนอาวุธในภูมิภาค และก็ประสบความสำเร็จในขั้นตอนแรกแล้วด้วย เนื่องจากพวกผู้ก่อความไม่สงบยินดีวางอาวุธของพวกเขาลง” ปธน.บาชีร์กล่าว และกล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้มีการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ ประชาชนที่พลัดถิ่นเป็นจำนวนมากซึ่งกลับไปยังบ้านเรือนของตนเองได้พิสูจน์เรื่องนี้

 

ความขัดแย้งในดาร์ฟัวร์เริ่มขึ้นในปี 1980s และขยายความรุนแรงมาขึ้นในปี 2003 เมื่อกลุ่มกบฏเริ่มแคมเปญจ์การโค่นล้มรัฐบาลอาหรับ (พวกคลั่งอาหรับสปริง) ในปี 2007 คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและสหภาพแอฟฟริกาได้ส่งกองกำลังรักษาสันติภพเข้าไปในพื้นที่ และจะขยายการปฏิบัติภารกิจออกไปจนถึงเดือนมิถุนายน 2018 และลดจำนวนเจ้าหน้าที่ลงด้วย

[สาเหตุที่แท้จริงของปัญหาความขัดแย้งก็คือ “ทรัพยากรน้ำมันดิบและเหมืองแร่ต่างๆ” มันเริ่มต้นตั้งแต่การเสี้ยมให้ซูดานใต้แยกประเทศออกจากซูดาน และก็มีความพยายามที่จะบ่อนทำลายซูดานอย่างต่อเนื่อง โลกอาหรับที่ส่วนใหญ่อยู่ภายใต้การกดดันด้วยอำนาจบางอย่างมาโดยตลอด ไม่เคยพบกับคำว่า “ประชาธิปไตย” และ “เสรีภาพ” และก็ยังไม่รู้ความหมายของมันจริงๆ พอฝรั่งตะวันตกโยนคำว่า “ประชาธิปไตย-เสรีภาพ” เข้าไปในหัวของพวกเขา ผู้คนส่วนมากก็พากันคลั่งและบ้าประชาธิปไตย ยอมทำลายวัฒนธรรม ประเทศชาติ และรากเหง้าของตนเอง เหมือนกับที่เกิดขึ้นในลิเบียและหลายประเทศ

ซึ่งหลังจากที่โค่นกัดดาฟี่ได้แล้ว ผ่านไปหลายปีก็ยังไม่เห็นเงาของ “ประชาธิปไตย” และ “สันติภาพ” ในลิเบียเลย มีแต่ “พวกไอซิส-อัลเคด้า” ระบาดเต็มบ้านเต็มเมือง ประชาชนบางส่วนถูกนำไปขายเป็น “ทาส” (ตอนนี้มีการเดินขบวนประท้วงการค้าทาสในแอฟฟริกา ในเมืองใหญ่ในยุโรปหลายเมือง ทั้งในสปน เยอรมัน และฝรั่งเศส) บางส่วนก็พากันอพยพข้ามทะเลผ่านขบวนการค้ามนุษย์เพื่อไปยังยุโรป โดยมียูเอ็นคอยดูแลทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ กลุ่มไหนที่เงินไม่ถึง ก็มักจะเกิดเหตุการณ์เรือผู้อพยพล่มกลางทะเลตามที่เป็นข่าวอยู่บ่อยๆ

เหตุการณ์เหล่านี้กำลังจะลุกลามไปยังซูดาน แต่ผู้นำซูดานไหวตัวทันซะก่อน จึงเชิญรัสเซียเข้าไปตั้งฐานทัพที่ซูดาน จีน สหรัฐ และญี่ปุ่น ยึดหัวหาดที่จิบูติในภูมิภาคเดียวกัน รัสเซียเตรียมยึดหัวหาดที่ซูดาน ตุรกีตามสหรัฐเข้าไปยึดหัวหาดที่กาตาร์ อิหร่านยึดฝั่งเหนือของเยเมนช่วยฝ่ายฮูติต้านการรุกรานจากพันธมิตรอาหรับนำโดยซาอุดิอาระเบีย พวกโลกสวยแต่โง่ถามว่า “ซื้อไปทำไมอาวุธ สมัยนี้เขาไม่รบกันแล้ว เขาทำสงครามเศรษฐกิจกัน” ความจริงก็คือ โลกนี้ไม่เคยปราศจากและว่างเว้นจากสงคราม ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ก็ตาม หากไม่เตรียมป้องกันประเทศให้ดี ซักวันมันมาแน่ – ผู้แปล]

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
27/11/2560
———-
https://sputniknews.com/…/201711251059426070-sudan-base-ta…/
http://news.xinhuanet.com/english/2017-11/25/c_136779320.htm
http://apanews.net/…/news/sudan-buys-35-fighter-jets-from-r…
https://www.bloomberg.com/…/russia-welcomes-sudan-leader-wa…
https://en.wikipedia.org/wiki/Sudanese_Air_Force
http://tass.com/politics/977479
http://en.kremlin.ru/events/president/news/56163
https://www.rt.com/news/410932-us-wants-divide-sudan/

About admin

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *