อิรักแถลงข่าววอนประชาคมโลกช่วยสนับสนุนในการต่อสู้กับกลุ่ม “รัฐอิสลาม”

557000010010201

เอเอฟพี – อิรักเรียกร้องทั่วโลกให้สนับสนุนตนในการต่อสู้กับกลุ่ม “รัฐอิสลาม” ขณะที่อิหร่านบอกจะช่วยแต่ไม่ใช่ในรูปแบบของการส่งทหารเข้าไปร่วมรบ

ในการแถลงข่าวร่วมกับอิหร่านที่กรุงแบกแดด “โฮเชีย เซบารี” รัฐมนตรีต่างประเทศของอิรักได้ระบุว่า อิรักต้องการความช่วยเหลือจากทุกฝ่าย ทุกกองกำลัง ในการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้าย แต่ความช่วยเหลือที่ต้องการนั้นไม่ใช่ในรูปแบบของกำลังทหาร เพราะอิรักไม่ได้ขาดแคลนกำลังพล

ด้าน โมฮัมเหม็ด จาวัด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านที่ร่วมแถลงข่าวด้วย ก็ได้ระบุว่าตอนนี้อิหร่านกำลังร่วมมือกับอิรัก พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทุกฝ่ายช่วยกันต่อต้านกลุ่มไอเอส

“เรากำลังร่วมมือและทำงานกับรัฐบาลอิรัก รวมถึงรัฐบาลของชาวเคิร์ดด้วย เพื่อที่จะขับไล่กลุ่มไอเอสที่แสนป่าเถื่อน” ซารีฟ กล่าว

เขาระบุว่า การกระทำของกลุ่มไอเอสนั้น ถือเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่น่าหวาดกลัว และยังถือเป็นอาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ จึงจำเป็นที่จะต้องถูกจัดการโดยประชาคมโลกและจากทุกๆ ประเทศในภูมิภาคนี้

“แต่เราไม่คิดว่าอิรักต้องการกำลังทหารของอิหร่านในการทำหน้าที่นี้” เขากล่าว

ทั้งนี้ มีรายงานว่ากองกำลังของอิหร่านเข้าไปทำการสู้รบอยู่ในอิรัก แม้ว่าซารีฟจะปฏิเสธ แต่ก็มีหลักฐานว่า พบกองกำลังที่มีความเกี่ยวข้องกับอิหร่านปฏิบัติการอยู่ในอิรักจริง ซึ่งรวมถึงการรายงานโดยสื่อของอิหร่านที่ระบุว่า มีนักบินของอิหร่านเสียชีวิตจากการสู้รบในอิรัก ทั้งยังมีการพบเห็นเครื่องบินรบ เอสยู-25 ของอิหร่านบินอยู่ในอิรัก

557000010010202

ด้านการสู้รบในอิรักยังคงมีอย่างต่อเนื่อง โดยในวันอาทิตย์ (24 ส.ค.) มีการโจมตีเข้าใส่พื้นที่ 2 แห่งในเขตดิยาลา ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงแบกแดด ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 ราย โดยที่ผู้เสียชีวิตเหล่านั้นมี 5 รายที่เป็นสมาชิกกองกำลังความมั่นคงของชาวเคิร์ด

ขณะเดียวกัน สหประชาชาติก็ได้เตือนว่าเมืองอาเมอร์ลีที่อยู่ทางตอนเหนือของอิรัก กำลังตกอยู่ภายใต้ภัยคุกคามของการสังหารหมู่โดยฝีมือของบรรดานักรบญิฮัด ที่ได้ทำการล้อมเมืองนี้มานานกว่า 2 เดือนแล้ว

นิโคลัย มลาเดนอฟ ผู้แทนยูเอ็นประจำอิรัก ระบุในคำแถลงว่า ประชาชนในเมืองอาเมอร์ลีกำลังสิ้นหวังและต้องการความช่วยเหลือในทันที เพื่อป้องกันมิให้พลเรือนถูกสังหารหมู่

ก่อนหน้านี้ มีการฆ่าตัดคอนักข่าวอเมริกัน “เจมส์ โฟลีย์” จนทำให้ชาติตะวันตกพากันเกรงว่าดินแดนในอิรักและซีเรียที่โดนยึดครองโดยกลุ่มไอเอสจะกลายเป็นฐานสำหรับปฏิบัติการก่อการร้ายรอบใหม่

ทั้งนี้ นักข่าวฟรีแลนซ์วัย 40 ปีผู้นี้ ถูกลักพาตัวจากทางตอนเหนือของซีเรียในเดือนพฤศจิกายน 2012 โดยในวิดีโอที่ถูกนำเสนอผ่านโลกออนไลน์ สมาชิกกลุ่มไอเอสที่สวมหน้ากากสีดำได้ระบุว่าการสังหารโฟลีย์คือการล้างแค้นสหรัฐฯ ที่ใช้การโจมตีทางอากาศเข้าใส่กลุ่มไอเอส

Credit : ASTVผู้จัดการออนไลน์

 

About admin

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *