Health&Fitness

“ชนิดของโรคปวดศีรษะ ที่พบบ่อย ๆ”

ชนิดของโรคปวดศรีษะ ที่พบบ่อย ๆ โดยทั่วไปแล้วมี 3 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้ 1. โรคปวดศรีษะไมเกรน(Migraines) 2. โรคปวดศรีษะจากความเครียด (Tension headache) 3. โรคปวดศรีษะแบบคลัสเตอร์(Cluster headache) *** โรคปวดศรีษะไมเกรน (Migraines) *** อาการปวดศีรษะไมเกรน อาการปวดศรีษะแบบปวดไมเกรนจะพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายในส่วนสัด 2 ต่อ 1 โดยอาการปวดศีรษะชนิดนี้จะปวดเป็นพักๆ ปวดข้างใดข้างหนึ่ง ปวดแบบตุบๆ เหมือนชีพจรกำลังเต้นนอกจากนี้ ยังมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ตาพร่ามัว หรือเห็นแสงสีร่วมอยู่ด้วย โดยอาการปวดจะเกิดขึ้นนาน 2-3 ชั่วโมง แล้วจะทุเลาลง หลังจากนั้นจะมีอาการปวดขึ้นใหม่ และจะมีอาการปวดในลักษณะนี้ติดต่อกันวันละครั้ง …

Read More »

“เลิกใช้ โฟมบรรจุอาหาร หันมาใส่ปิ่นโต”

สาธารณสุขจังหวัดตรัง รณรงค์ประชาชนให้หันมาใช้ปิ่นโต โถใส่อาหาร แทนการใช้กล่องโฟมบรรจุอาหาร แนะหากมีความจำเป็นต้องใช้โฟม ให้ใช้ที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ             นพ.วิฑูรย์ เหลืองดิลก นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตรัง กล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาที่คุกคามสุขภาพคือ การบริโภคไม่ระมัดระวัง โดยเฉพาะการบริโภคอาหารบรรจุโฟม ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากของพี่น้องประชาชน แต่ก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมา อาทิ มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมากและมะเร็งตับ ก็จะได้รับสารจากโฟมซึ่งเป็นสารปิโตรเคมี จึงมีแนวคิดรณรงค์ให้มีการเลิกใช้โฟมบรรจุอาหารอย่างจริงจัง และได้ดำเนินการเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงรณรงค์เลิกใช้ถุงพลาสติกบรรจุข้าวสวยร้อน ๆ อีกด้วย และให้หันกลับมาสู่วิถีดั้งเดิมในการใช้ปิ่นโต โถใส่อาหาร หรือหม้อข้าวแบบเก่าแทน นอกจากนี้ หากมีความจำเป็นต้องใช้โฟม ก็ขอใช้โฟมที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ ได้แก่ โฟมจากเยื่อไผ่ โฟมจากชานอ้อย ซึ่งเป็นภาชนะที่ปลอดภัยไร้สารก่อมะเร็ง ผลิตจากเยื่อพืชธรรมชาติ …

Read More »

สธ.ห่วงโรคสุกใส ระบาดหน้าหนาว

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคสุกใสอย่างใกล้ชิดตลอดฤดูหนาว ในรอบ 11 เดือนปีนี้ พบผู้ป่วยเกือบ 8 หมื่นราย เฉลี่ยวันละ 244 ราย เสียชีวิต 1 ราย สัญญาณป่วยปีนี้สูงกว่าปีที่แล้วร้อยละ 37 กลุ่มที่น่าห่วงที่สุดและต้องระมัดระวังเป็นพิเศษคือ เด็กอายุต่ำกว่า 1 ปีและผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น ผู้ติดเชื้อเอชไอวี มะเร็ง เบาหวาน หากติดเชื้อจะมีความเสี่ยงอาการรุนแรงกว่ากลุ่มอื่น หากป่วยให้หยุดเรียน หยุดพักทำงาน จนกว่าผื่นตกสะเก็ดหมดแล้วอย่างน้อย 1วัน เมื่อหายป่วยแล้ว จะมีโอกาสเป็นงูสวัดได้สูงกว่าคนทั่วไป หากไม่ดูแลสุขภาพหรือร่างกายอ่อนแอ นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงฤดูหนาวนี้ อากาศหนาวเย็น โรคที่มีความเสี่ยงจะระบาดได้ง่ายก็คือ โรคอีสุกอีใส (Chickenpox) …

Read More »

SODA IS BAD FOR SKIN น้ำอัดลมตัวร้าย..ที่ทำลายผิวสวยๆของคุณได้

เครดิตรูปภาพ : curvesnews.com.au/should-new-zealand-introduce-a-soft-drinks-tax/ ค่อนข้างเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าน้ำอัดลมที่ดื่มไปแล้วทำให้เรารู้สึกสดชื่นซาบซ่านั้น แท้ที่จริงมันไม่ดีต่อสุขภาพของคุณเอาซะเลย อีกทั้งยังเต็มไปด้วยแคลอรี่และไร้ซึ่งคุณค่าทางสารอาหารอย่างสิ้นเชิง แถมยังอุดมไปด้วยน้ำตาลบวกกับสารเคมีอีกสารพัด เครดิตรูปภาพ : www.flickr.com/photos/afroswede/19921805/in/photolist-5b28gN-dGD6R-5vRFWz-7db3nD-dVHysB-iJD แต่รู้ไหมว่าโทษอีกอย่างหนึ่งของน้ำอัดลมก็คือ มันจะทำลายสุขภาพผิวของคุณไปอย่างช้าๆและทำให้เกิดปัญหาริ้วรอยเหี่ยวย่นตามมา หากคุณจะมุ่งหน้าไปที่ตู้เย็นและคิดจะเทเครื่องดื่มเหล่านี้ทิ้งซะเดี๋ยวนี้เลย เราขอบอกคุณไว้ก่อนว่าคุณอาจจะได้อ่างล้างจานที่ใหม่เอี่ยมอ่องเชียวล่ะ เพราะอะไรหน่ะเหรอ? ก็เพราะมันจะกัดกร่อนอ่างล้างจานเป็นฟองฟู่สะอาดแวววับเลยหน่ะสิ แต่ในทางกลับกันให้คุณลองคิดดูสิว่าถ้าหากน้ำอัดลมเหล่านี้ไปอยู่ในกระเพาะอาหารมันจะกัดกร่อนร่างกายของเราขนาดไหน คิดแล้วสยองจริงๆ ยิ่งถ้าได้รู้ถึงกระบวนการผลิตและปริมาณน้ำตาลที่พวกเขาใส่เข้าไป รับรองว่าคุณจะขนพองสยองเกล้าขึ้นไปอีกเป็นแน่ เครดิตรูปภาพ : www.carolinejordanfitness.com/aspartame-saccharin-and-sucralose-oh-my-the-sweetened-beverage-a เครดิตรูปภาพ : taganskitchen.blogspot.com/2012/02/big-food-exhibit-at-peabody-museum.html มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียแห่งซานฟรานซิสโกได้เผยผลการศึกษาออกมาว่า การดื่มน้ำอัดลมอาจทำให้เกิดภาวะแก่ก่อนวัย สะสมโรคภัยไข้เจ็บและอายุสั้นลง แล้วเครื่องดื่มเหล่านี้ส่งผลเสียต่อผิวของคุณได้อย่างไรบ้าง? ปฏิกิริยาเคมีไกลเคชั่นจะเกิดขึ้นภายในร่างกายเมื่อน้ำตาลรวมตัวกับโปรตีน แต่อย่าเพิ่งตกใจเพราะกระบวนการนี้เกิดขึ้นตามธรรมชาติอยู่แล้วแม้ว่าคุณจะไม่ดื่มน้ำอัดลมเลยก็ตาม อย่างไรก็ตามการเกิดปฏิกิริยาไกลเคชั่นมากเกินไปอันเนื่องมาจากการบริโภคน้ำตาลมากเกินไปจะทำให้คุณเข้าสู่ภาวะแก่ก่อนวัย เครดิตรูปภาพ : www.sciencephoto.com/media/268705/view ปฏิกิริยาความหนืดของน้ำตาลกลูโคสในชั้นผิว หรือ AGEs จะรบกวนการทำงานของเซลล์ผิวหนัง ทำลายอีลาสติน และชะลอการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ซึ่งทำให้ผิวหนังหมองคล้ำและเหี่ยวย่น น้ำอัดลมคือตัวการสำคัญเนื่องจากมีองค์ประกอบหลักคือน้ำตาลทราย นอกจากนี้ทั้งกลูโคส …

Read More »

ดูแลสุขภาพหน้าหนาวด้วยสมุนไพรไทย

ช่วงนี้ฤดูหนาวแล้ว หลายคนอาจจะป่วย ด้วยโรคในช่วงฤดูกาลดังกล่าว เช่น ไอ เป็นไข้หวัด ปอดบวม ท้องเสีย เป็นต้น กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกเป็นห่วงสุขภาพของทุกคนจึงอยากแนะนำให้ประชาชนกินพืชผักสมุนไพรไทยเป็นประจำในช่วงหน้าหนาวนี้ รสชาติของอาหารสามารถช่วยปรับสมดุลของร่างกายพร้อมรับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงโดยรสชาติอาหารที่อยากแนะนำฤดูหนาวคือ รสเปรี้ยว รสขม และรสเผ็ด เพราะรสเปรี้ยวจะช่วยขับเสมหะ รสขมช่วยเจริญอาหารทำให้หลับได้ รสเผ็ดร้อน จะช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต ซึ่งรสดังกล่าวจะหาได้ในอาหารที่เรารับประทานแต่ละมื้อนั่นเอง   ทั้งนี้กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกได้แนะนำพืชสมุนไพรที่ควรกินเพื่อคลายหนาวดังนี้ พริก มีสารแคปไซซิน ซึ่งจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต และจะช่วยให้อาการหนาวชาบริเวณปลายมือและปลายเท้าลดลง ขิง มีฤทธิ์ร้อน สามมารถช่วยระบายความเย็นภายในออกไป หรือนำขิงอ่อนมาต้มแล้วเติมน้ำตาล หรือน้ำผึ้งและดื่มจะช่วให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น ยอดมะกอก ช่อมะม่วง ยอดผักติ้ว ยอดผักแต้ว ผักเม็ด มะระ สะเดา ผักพื้นบ้านเหล่านี้ จะมีรสเปรี้ยวและรสขม ช่วยให้ธาตุทั้งสี่ร่างกายสมดุล ร่างกายสดชื่นแข็งแรงมีภูมิต้านทานโรคในฤดูหนาวนี้   ขอบคุณข้อมูลจาก …

Read More »

“กล้วย” พืชประโยชน์สารพัดนึก แต่หากบริโภคไม่คิด มีสิทธิ์ถึง “ตาย”

“กล้วย” เป็นพืชที่ขึ้นทั่วๆ ไปในเขตร้อน โดยเฉพาะในบ้านเราประเทศไทยมีความคุ้นเคยกันมาแต่โบร่ำโบราณ คนไทยสมัยก่อนปลูกเป็นไม้ประจำ “บ้าน” เลยทีเดียว มีแทบทุกบ้านช่อง เพื่อใช้ประโยชน์สารพัดที่ผู้เขียนคุ้นเคยมากๆ เมื่อ 50-60 ปีที่ผ่านมา ปู่ ย่า ตา ยาย คุณพ่อ คุณแม่สมัยก่อนจะนิยมใช้เป็นอาหารเลี้ยงทารก โดยเฉพาะพออายุได้ 1 เดือน ผู้เฒ่าผู้แก่จะนิยมบดกล้วยเละๆ เรียกภาษาชาวบ้านว่า “กล้วยบด” แล้วป้อนให้ลูกหลานกินเป็นอาหารเสริมประจำวันนอกจาก “นมแม่” ว่าไปแล้วคุณแม่ของผู้เขียนเองก็เคยป้อนกล้วยบดให้กินเช่นเดียวกันนอกจากนมแม่ มีเหตุการณ์ประทับใจอันเกี่ยวเนื่องกับเรื่องกล้วยเมื่อประมาณปี2517ขณะนั้นผู้เขียนเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลสิงห์บุรีออกตรวจผู้ป่วยนอก(OPD) พบคุณแม่ทารกรายหนึ่งพาลูกชายอายุ 1 เดือนเศษไปโรงพยาบาลด้วยอาการท้องอืด อาเจียน กระสับกระส่าย ร้องไห้ไม่ยอมหยุด หลังจากป้อนกล้วยได้ 1 ชั่วโมง ผู้เขียนได้ซักว่าก่อนหน้ามาโรงพยาบาลได้เลี้ยงลูกทารกอย่างไร อะไรบ้าง ได้ประวัติว่า …

Read More »

วิธีดูแลผิวหน้าหนาว 15 ข้อ รับรองผิวสวยเป๊ะ

15 เคล็ดลับ ดูแลผิวหน้าหนาว ให้ได้ผล!! (emaginfo) ระยะนี้อากาศเปลี่ยนเข้าสู่ฤดูหนาว จึงพบปัญหาผิวหนังบางอย่างได้บ่อยในคนไทย มีผิวแตก แห้ง และคัน เกิดจากความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศที่น้อยลง และคนเมืองส่วนใหญ่อยู่แต่ในห้องปรับอากาศ ซึ่งมีแต่ความเย็น แต่ไม่มีการปรับความชื้นให้เหมาะสม ทำให้ผิวหนังแห้งได้ง่าย   เพราะฉะนั้นแล้วในช่วงเริ่มเข้าสู่หน้าหนาวเช่นนี้ ควรมารู้จักกับวิธีดูแลผิวในหน้าหนาว เพื่อที่ผิวคุณจะได้ดูมีสุขภาพดี เปล่งปลั่ง  ไนท์ครีม เลือกปรนนิบัติผิวก่อน 4 ทุ่ม เพราะช่วงเวลาระหว่าง 3 ถึง 4 ทุ่ม เซลผิวจะทำงานซ่อมแซมตัวมันเอง แถมยังเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่ทาครีมแก้สิวในตอนกลางคืน เพราะอุณหภูมิในตัวคุณจะสูงขึ้นราว 1-2 องศา ซึ่งจะทำให้รูขุมขนเปิดกว้างขึ้น และทำให้เนื้อครีมที่คุณลูบไล้ลงบนผิวก่อนนอนซึมซาบได้ดีขึ้น เพื่อช่วยให้เนื้อครีมซึมซาบได้ดีขึ้น ให้ใช้น้ำอุ่นปะพรมบนใบหน้าก่อน หรือทำให้ครีมบำรุงอุ่นขึ้นด้วยการถูฝามือหลังป้ายเนื้อครีมแล้ว จากนั้นจึงค่อยลูบไล้ให้ทั่วผิวหน้า  ขัดหน้า …

Read More »

“เครื่องเป่ามือ” เมื่อเรามโนว่ามันสะอาด! ที่จริงเชื้อโรคล้วนๆ

ผู้ที่เคยใช้ห้องน้ำสาธารณะตามศูนย์การค้า ปั๊มน้ำมัน หรือสถานที่ต่างๆ นอกบ้าน คงมีจำนวนไม่น้อยที่เคยใช้เครื่องเป่ามือให้แห้งหลังจากที่ล้างมือด้วยน้ำสะอาด แต่รู้ไหมว่าการใช้เครื่องเป่ามือในห้องน้ำสาธารณะเป็นจุดเสี่ยงในการติดเชื้อโรคต่างๆ ได้ มีงานวิจัยระบุว่า ลมที่ออกมาจากเครื่องเป่ามือที่อยู่ตามห้องน้ำสาธารณะมีเชื้อโรคถึง 95% ซึ่งอาจทำให้คุณเป็นหวัดและอาหารเป็นพิษ เพราะท่อส่งอากาศที่ถูกเป่าออกมานั้นเต็มไปด้วยเชื้อโรคที่กำลังแพร่ขยายพันธุ์อยู่ ซึ่งผลที่ได้คือมือของคุณจะเต็มไปด้วยเชื้อโรคมากกว่าตอนก่อนล้างมือเสียอีก โดยการใช้เครื่องเป่ามือจะเพิ่มจำนวนแบคทีเรียบริเวณนิ้วมือโดยเฉลี่ย 42% และบริเวณฝ่ามือถึง 15% แต่ในทางกลับกันถ้าเช็ดด้วยกระดาษเช็ดมือ จะสามารถลดจำนวนแบคทีเรียบริเวณนิ้วมือได้ถึง 76% และบนมือได้ถึง 77% ผู้สื่อข่าว : ทีมข่าวสปริงนิวส์ Credit : http://campus.sanook.com/

Read More »

PRICE 5 วิธีจดจำง่าย บรรเทาอาการปวดเข่า

อาการปวดเข่าอย่างเฉียบพลัน เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอ ซึ่งสามารถบรรเทาอาการเหล่านี้ลงได้ด้วย 5 วิธีจดจำง่าย อย่าง PRICE      เข่า เป็น 1 ในจุดสำคัญของขาซึ่งมีหน้าที่คอยรับน้ำหนักตัวในขณะที่เดิน วิ่ง หรือกระโดด แน่นอนว่าถ้าหากเกิดอาการปวดขึ้นมาย่อมส่งผลกระทบต่อการเดินอย่างแน่นอนเลยค่ะ โดยปกติแล้ว อาการปวดเข่านั้นมักจะเกิดขึ้นฉับพลัน แต่กว่าจะไปถึงมือแพทย์ก็คงต้องทนเจ็บปวดกันอยู่นาน ดังนั้นเราจึงต้องทำการปฐมพยาบาลกันเบื้องต้นก่อน ซึ่งวิธีหนึ่งที่กระปุกดอทคอมขอนำเสนอก็คือ การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อเกิดอาการปวดเข่า แบบง่าย 5 วิธี ที่มีชื่อเรียกสุดเก๋ว่า PRICE แต่จะเป็นการปฐมพยาบาลอย่างไรนั้น ไปดูกันเลยค่ะ      PRICE หรือที่อ่านว่า ไพร้ส์ เป็นการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อเกิดอาการปวดเข่าอย่างเฉียบพลัน อันอาจจะมีสาเหตุมาจากการถูกกระทบกระแทกหรือการเคลื่อนไหวที่ผิดจังหวะไม่เหมาะสม โดยชื่อนี้ก็มาจากการรวมกันของตัวอักษรที่บ่งบอกถึงการดูแลในแต่ละขั้นค่ะ      P = Protection แปลว่า การปกป้อง หลักในข้อนี้คือการเตือนใจให้ผู้บาดเจ็บตระหนักถึงการปกป้องบริเวณที่ปวด โดยการพันผ้า หรือหาเครื่องป้องกัน …

Read More »

ยา พาราฯ ห้ามกินเกินวันละ 8 เม็ด หวั่นเป็นพิษต่อตับ

จี้ปรับวิธีจ่ายยา ′พาราฯ′ ห้ามกินเกินวันละ 8 เม็ด หวั่นเป็นพิษต่อตับ เครือข่ายโรงพยาบาลฯราว 50 แห่ง ห่วงคนไข้กินยา ′พาราเซตามอล′ เกินขนาด จะเป็นพิษต่อตับ แนะ คุมการเบิกจ่ายในสถานพยาบาลห้ามกินเกินวันละ 8 เม็ด เมื่อวันที่ 25 กันยายน นายแพทย์พิสนธิ์ จงตระกูล อาจารย์ประจำภาควิชาเภสัชวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้เครือข่ายโรงพยาบาลส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผล โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลเครือข่ายโรงเรียนแพทย์ ประมาณ 50 แห่งทั่วประเทศได้หารือถึงการใช้ยาพาราเซตามอลอย่างสมเหตุผลเนื่องจากเห็นว่าขณะนี้ในท้องตลาดมีการวางจำหน่ายยาพาราฯหลายขนาดและมีการใช้กันอย่างแพร่หลายโดยเฉพาะขนาด650 มิลลิกรัม(มก.) ซึ่งมีความเสี่ยงว่าผู้ป่วยอาจได้รับยาเกินขนาดและเป็นพิษต่อตับ ทั้งนี้เพราะคนไทยมีความเชื่อว่าถ้าเจ็บป่วยต้องรักษาด้วยยาพาราฯ และต้องกินครั้งละ 2 เม็ดแต่ตามเกณฑ์มาตรฐานระบุไว้ที่ 1,000 มิลลิกรัมเท่านั้น ที่ประชุมจึงมีมติให้เริ่มส่งเสริมการใช้ยาดังกล่าวอย่างสมเหตุผลโดยเริ่มต้นที่โรงพยาบาลเป็นอันดับแรก …

Read More »