RAYONG CHANNEL : ณ น่าน ที่ฉันหลงรัก

ณ น่าน ที่ฉันหลงรัก

เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ ผมได้ไปเมืองน่าน 3 วัน และได้พบกับเพื่อนสนิทที่ทำงานอยู่ที่นั้น เราได้พูดคุยถึงสิ่งที่เปลี่ยนไปในสังคมเมืองน่าน ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย ยามเย็น ริมแม่น้ำน่าน

หลายปีก่อน พอพระอาทิตย์ตกดิน ฟ้าเริ่มมืด อากาศเย็นลง 2-3 ทุ่ม ถนนทั่วไปเมืองน่านก็เงียบเหงา เพราะเข้าบ้านกันหมด จะหาอะไรกินยามดึกดื่น บอกเลยไม่มี ร้านสะดวกซื้อ 24 ชม. ยังมาไม่ถึง แต่ ณ วันนี้ไม่ต่างอะไรกับเมืองอื่นๆ ที่ความเจริญและความสะดวกสบายเข้ามาเยือน ผู้คนในเมืองน่านเริ่มใช้ชีวิตนอกบ้านยามค่ำคืนมากขึ้น

เขาว่า…เศรษฐกิจเมืองน่านดีขึ้น มีเงินหมุนเวียนมากขึ้น มีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น ร้านค้ามีมากขึ้น อาหารการกินหลากหลายขึ้น ร้านสะดวกซื้อ 24 ชม. เริ่มมีให้เห็นหลายจุด และแน่นอนหนุ่มสาวเมืองน่าน เริ่มกล้าแสดงออกมากขึ้น การแต่งตัว การใช้ภาษาเริ่มเปลี่ยนแปลง ด้วยคำศัพท์สมัยนิยม ตามทีวีบ้าง ตามโลกออนไลน์บ้าง และมีสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนตัวมากขึ้น ทั้งมือถือ มอเตอร์ไซค์ รถยนต์ อื่นๆ เพื่อนมี ก็ต้องมีบ้าง

การได้พูดคุยกับเพื่อนถึงการเปลี่ยนไปของวิถีแบบเมืองน่าน อย่างออกรส ผสมกลมกลืนไปกับรสชาติอาหารพื้นบ้าน โดยเฉพาะไก่ทอดมะแขว่น มาน่านทีไรต้องกิน กินทีไรมันซ่านลิ้นซ่านปากดี เราแลกเปลี่ยนมุมมองต่างๆ และสรุปออกมาเป็นประเด็นหรือสาเหตุที่น่าคิด

1) ความคาดหวังของพ่อแม่ ที่ไม่อยากให้ลูกลำบากเหมือนตน จึงผลักดันให้ลูกเรียนสูงๆ มีงานดีๆ ทำ มีหน้ามีตาทางสังคม ให้พ่อแม่ได้ยืดอกอวดเพื่อนบ้านได้ ไม่ต้องกลับมาทำไร่ ทำสวน ทำนา หลังคดหลังแข็ง ตากแดด ตากฝนอีก

2) อาชีพการงานมีความหลากหลายมากขึ้น ทำงานมีเงินเดือน ได้เงินทุกเดือน เงินถึงมือเร็ว ใช้เงินได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น จะให้กลับไปทำงานตากแดดตากฝนได้เงินปีละครั้งสองครั้ง คิดหนัก

3) สิ่งยั่วยุ และแบบอย่างในทีวี แฝงอยู่ในละคร เกมส์โชว์ วาไรตี้ โฆษณา แม้กระทั่งช่วงเวลาข่าว เป็นแรงกระตุ้นที่มีความถี่ต่อเนื่อง ทำให้เกิดการความอยากในการใช้เงิน เพื่อแลกกับความทันสมัยและความสะดวกสบายต่างๆ

4) การขยายตัวของร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ที่ทำให้คนต้องออกไปนอกบ้านเพื่อใช้เงินซื้อ

5) ระบบสินเชื่อที่ทำให้มีเงินในมือเร็วขึ้น อยากได้อะไรก็ได้ง่ายขึ้น ดอกเบี้ยสูงๆ ก็ยอม ขอให้มีเหมือนคนอื่น

6) มอเตอร์ไซค์ รถยนต์ ที่ทุกบ้านต้องมี เป็นหนี้ยาวๆ ก็ยอม

7) การขายบ้านในไร่ ในสวน ในป่า ในเขา เพื่อปลดภาระหนี้สิน ไปอยู่บ้านตึกแถว เพื่อหวังทำการค้า ไปตายเอาดาบหน้า

นี่เป็นเพียงเหตุผลบางส่วนที่พอจะชี้ให้เห็นว่าวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปแบบนี้ได้กระจายไปในทุกๆ ที่ ที่ความเจริญเริ่มแผ่เข้าไปปกคลุม ผู้คนในสังคมแบบดั้งเดิม ที่อยู่กันอย่างเรียบง่าย ไม่ต้องทะเยอทะยานดิ้นรนไขว่คว้าอะไรมากนัก เมื่อได้ลิ้มรสสัมผัสกับความเจริญและความสะดวกสบายที่มากกว่า เป็นใครๆ ก็ชอบ ใครก็อยากสบาย สุดท้ายก็เสพติดความสบาย จะให้กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมอีกคง “ไม่”

แต่ทุกความสะดวกสบายและความทันสมัย ต้องแลกมาด้วยการใช้เงิน เงิน เงิน เงิน เหตุจูงใจในการใช้เงินจึงเป็นอาวุธสำคัญ ที่ระบบการค้าของนายทุนแบบรวบหัวรวบหาง ใช้ยิงใส่เราทุกวัน ทุกวิธี ทุกที่ ทุกช่องทาง ทุกลมหายใจเข้าออก เหมือนเชื้อร้ายที่แทรกซึมเข้าร่างกาย คอยกินเลือดกินเนื้อเราตลอดเวลา บังคับกดขี่จิตใจ กระตุ้นให้เกิดความอยากได้ อยากมี อยากกิน อยากใส่ อยากเปลี่ยน เชื้อร้ายแห่งความอยากนี้ไม่เลือกชนชั้น ไม่เลือกเพศ ไม่เลือกวัย ระบบการค้าของนายทุนแบบรวบหัวรวบหาง จึงใช้เชื้อร้ายแห่งความอยากนี้ดูดเงิน เงิน เงิน ออกจากเส้นเลือดของเรา ถ้าไม่มีเงิน เขาให้ยืม ยืมง่ายๆ ผ่อนสบาย ดอกเบี้ยบานๆ แท้จริงเอาเงินในอนาคตของเรามาให้เราใช้ แต่คิดค่าบริการและกำไรเป็นดอกเบี้ยที่เราต้องจ่ายอย่างเลี่ยงไม่ได้ ยัง ยังไม่พอ ยังกระตุ้นให้เลือดในร่ายการเราเร้าร้อนกระสันอยากใช้เงิน ด้วยการลด แลก แจกแถม สะสมแต้มแลกของ ซื้อแล้วซื้ออีกถูกกว่า จะออกจากร้านแล้ว ยังถามอีกว่า รับขนมจีบซาลาเปาเพิ่มมั้ยค่ะ ด้วยรอยยิ้มที่เลือดเย็นยิ่งนัก

สำหรับสังคมเมือง “น่าน” ความเจริญและความสะดวกสบาย ได้คืบคลานคลุกวงใน หลายสิ่งเปลี่ยนไป วิถีชีวิตเริ่มเปลี่ยนโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ แต่ยังโชคดีอยู่บ้าง ที่ลูกหลานคนน่านแท้ๆ หลายคนได้หวนกลับมาประสานมือร่วมกัน มีการพูดคุย ปรึกษาหารือ และจัดกิจกรรมต่างๆ รณรงค์สร้างความเข้าใจและยกเอาเอกลักษณ์ของท้องถิ่นขึ้นมาเป็นกำแพงต้านกระสุนเชื้อร้ายแห่งความอยาก ที่ระดมยิงมาจากระบบการค้าของนายทุนแบบรวบหัวรวบหาง ถึงแม้กำแพงยังบอบบางไม่แข็งแรงนัก แต่เชื่อว่า อิฐอีกหลายก้อนที่ทยอยก่อตัวเสริมฐานรากกำแพง และเสริมความหนาให้ชั้นกำแพงจะแข็งแรงยิ่งขึ้น สามารถรับมือกับระบบนายทุนแบบรวบหัวรวบหาง ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ

ได้เวลาเก็บเงินค่าอาหารสำหรับมื้อเย็นในวันนี้ ผมยังรู้สึกได้ที่ความซ่านลิ้นซ่านปากจากไก่ทอดมะแขว่นที่เพิ่งหมดจาน ถ้าไม่ติดว่าอิ่มจนแน่นท้อง ผมคงสั่งมากินอีกสักจาน เมืองน่านในวันนี้ แม้จะถูกความเจริญคลุกวงใน แต่เมืองน่านก็ยังมีเสน่ห์ และมีจุดแข็งของวัฒนธรรมหลายๆ อย่าง ที่ระบบนายทุนยังตีไม่แตก เข้าไม่ถึง ผมกับเพื่อนไม่ใช่คนน่าน แต่เรามีความรู้สึกเหมือนกันอย่างหนึ่งว่า ไก่ทอดมะแขว่นรสชาติดั้งเดิมแบบนี้ ควรจะหากินได้ง่ายๆ ไม่ใช่ต้องขึ้นไปนั่งตากแอร์บนห้างเพื่อกินไก่ทอด และสมุนไพรท้องถิ่นที่คลุกเคล้าอยู่ในไก่ทอดมะแขว่น น่าจะเป็นยาต้านทานเชื้อร้ายของระบบนายทุนแบบรวบหัวรวบหางได้เป็นอย่างดี ผมก็ได้แต่หวัง….

ด้วยความปรารถนาดี
ผูกพันธ์ เมธีเฉลิมบุญ
9 มีนาคม 2558

About admin

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *